ยกหางตาแบบผ่าตัด vs ร้อยไหม vs เลเซอร์: เลือกวิธีที่ใช่สำหรับคุณ”

ยกหางตาแบบผ่าตัด vs ร้อยไหม vs เลเซอร์: เลือกวิธีที่ใช่สำหรับคุณ”
ยกหางตาแบบผ่าตัด vs ร้อยไหม vs เลเซอร์: เลือกวิธีที่ใช่สำหรับคุณ"
ยกหางตาแบบผ่าตัด vs ร้อยไหม vs เลเซอร์: เลือกวิธีที่ใช่สำหรับคุณ”

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบริเวณรอบดวงตา โดยเฉพาะบริเวณหางตา มักเริ่มแสดงสัญญาณแห่งวัย ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือหางตาที่ตกลง ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเหนื่อยล้าและมีอายุ การยกหางตาจึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ช่วยให้ดวงตาดูยกกระชับ สดใส และอ่อนเยาว์ขึ้น ปัจจุบัน มีวิธีการยกหางตาหลากหลายรูปแบบ แต่ที่ได้รับความนิยมหลัก ๆ คือ การผ่าตัดยกหางตา การร้อยไหมยกหางตา และการยกหางตาด้วยเลเซอร์ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีกลไกการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป การทำความเข้าใจถึงรายละเอียดของแต่ละวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกแนวทางที่ตอบโจทย์ความต้องการและสภาพผิวของคุณได้อย่างแท้จริง

ทำไมหางตาถึงตกและเกิดริ้วรอย?

ก่อนที่จะลงลึกถึงวิธีการยกหางตา เรามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุหลักที่ทำให้หางตาตกและเกิดริ้วรอยเสียก่อน ปัจจัยสำคัญมีดังนี้:

  • อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังจะลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ เป็นผลให้ผิวหนังบริเวณหางตาเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย
  • แรงโน้มถ่วง: แรงโน้มถ่วงของโลกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และส่งผลให้ผิวหนังค่อย ๆ หย่อนคล้อยลงตามวัย โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบอบบางอย่างรอบดวงตา
  • การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ: การแสดงสีหน้าต่าง ๆ เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว หรือการหรี่ตา เป็นประจำ ทำให้เกิดรอยย่นบริเวณหางตาและรอบดวงตา ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป รอยเหล่านี้จะกลายเป็นริ้วรอยถาวร
  • แสงแดด: การสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกัน จะทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม: บางคนอาจมีแนวโน้มทางพันธุกรรมที่ทำให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาหย่อนคล้อยเร็วกว่าคนอื่น
  • ไลฟ์สไตล์: พฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่าง เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ หรือการดื่มน้ำน้อย ก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวและเร่งให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้
    ยกหางตาแบบผ่าตัด vs ร้อยไหม vs เลเซอร์: เลือกวิธีที่ใช่สำหรับคุณ"

1. การยกหางตาแบบผ่าตัด (Surgical Brow Lift/Temporal Lift/Lateral Canthoplasty):

การผ่าตัดยกหางตาเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหางตาตกและหนังตาหย่อนคล้อยที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนานที่สุด โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อยกกระชับผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณหางตาและขมับ อาจมีการตัดหนังตาส่วนเกินออก ขึ้นอยู่กับปัญหาและเป้าหมายของแต่ละบุคคล

  • เทคนิคการผ่าตัด:

    • Direct Brow Lift: เป็นการผ่าตัดโดยตรงบริเวณเหนือคิ้ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกคิ้วและหางตาในระดับปานกลางถึงมาก มักมีรอยแผลเป็นเหนือคิ้ว
    • Temporal Lift (Lateral Brow Lift): เป็นการผ่าตัดยกกระชับเฉพาะบริเวณหางตาและขมับ โดยแผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่ในแนวไรผมบริเวณขมับ ทำให้มองเห็นรอยแผลเป็นได้ยาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง
    • Endoscopic Brow Lift: เป็นการผ่าตัดโดยใช้กล้องเอนโดสโคปขนาดเล็ก สอดผ่านแผลเล็ก ๆ บริเวณหนังศีรษะ เพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณหน้าผาก คิ้ว และหางตา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับในหลายบริเวณพร้อมกัน และมีรอยแผลเป็นน้อย
    • Subbrow Lift (Lateral Hooding Correction): เป็นการผ่าตัดโดยซ่อนแผลไว้ใต้คิ้ว เพื่อตัดหนังตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยบริเวณหางตาออก ช่วยยกหางตาและปรับปรุงชั้นตาให้ชัดเจนขึ้น
    • Canthoplasty/Canthopexy: เป็นการผ่าตัดปรับรูปทรงของหางตา โดยอาจยกหางตาให้เฉี่ยวขึ้น (Almond Eyes/Foxy Eyes) หรือปรับให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น
  • ข้อดีของการผ่าตัดยกหางตา:

    • ผลลัพธ์ชัดเจนและเห็นได้ทันที: การผ่าตัดสามารถยกกระชับผิวหนังและเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนหลังการผ่าตัด
    • ผลลัพธ์ยาวนาน: เมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ การผ่าตัดยกหางตาให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นานหลายปี ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดและปัจจัยส่วนบุคคล
    • แก้ไขปัญหาได้หลากหลาย: สามารถแก้ไขปัญหาหางตาตก หนังตาหย่อนคล้อย ริ้วรอย และปรับรูปทรงดวงตาได้ตามต้องการ
    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหามาก: สำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกหรือหนังตาหย่อนคล้อยในระดับมาก การผ่าตัดมักเป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ข้อเสียของการผ่าตัดยกหางตา:

    • ต้องใช้เวลาพักฟื้น: หลังการผ่าตัด อาจมีอาการบวมช้ำและต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
    • อาจมีรอยแผลเป็น: แม้ว่าศัลยแพทย์จะพยายามซ่อนรอยแผลเป็นให้มากที่สุด แต่ก็อาจมีร่องรอยหลงเหลืออยู่บ้าง ซึ่งจะค่อย ๆ จางลงตามเวลา
    • มีความเสี่ยงในการผ่าตัด: เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ การยกหางตาก็มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ เลือดออก หรือความไม่สมมาตร
    • ค่าใช้จ่ายสูงกว่า: การผ่าตัดยกหางตามีค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีการอื่น ๆ

2. การร้อยไหมยกหางตา (Thread Lift/Foxy Eyes Thread Lift):

การร้อยไหมยกหางตาเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์จะใช้ไหมละลายชนิดพิเศษที่มีเงี่ยง สอดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณหางตาและขมับ จากนั้นดึงไหมเพื่อยกกระชับผิวหนัง เงี่ยงของไหมจะช่วยยึดเกาะผิวหนังและยกขึ้น ทำให้หางตาดูยกกระชับขึ้นทันทีหลังทำ

  • เทคนิคการร้อยไหม:

    • แพทย์จะทำความสะอาดผิวและฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะทำการร้อยไหม
    • ใช้เข็มนำสอดไหมละลายเข้าไปใต้ผิวหนังตามแนวที่ได้ออกแบบไว้
    • ดึงไหมเพื่อยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตาและขมับ
    • ตัดปลายไหมส่วนเกินออก
  • ข้อดีของการร้อยไหมยกหางตา:

    • ไม่ต้องผ่าตัด: เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีการเปิดแผลใหญ่ ทำให้ไม่มีรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัด
    • เห็นผลลัพธ์ทันที: หลังการร้อยไหม ผิวหนังบริเวณหางตาจะถูกยกกระชับขึ้นทันที
    • ใช้เวลาพักฟื้นน้อย: อาจมีอาการบวมช้ำเล็กน้อยหลังทำ แต่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายใน 1-2 วัน
    • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ไหมละลายจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวค่อย ๆ กระชับขึ้นในระยะยาว
    • ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการผ่าตัด: การร้อยไหมมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการผ่าตัดยกหางตา
  • ข้อเสียของการร้อยไหมยกหางตา:

    • ผลลัพธ์ไม่ถาวร: ไหมละลายจะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
    • ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่าการผ่าตัด: การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกหรือหนังตาหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง สำหรับผู้ที่มีปัญหามาก การผ่าตัดอาจให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า
    • อาจมีอาการข้างเคียง: เช่น อาการบวมช้ำ รอยแดง หรือรู้สึกตึงบริเวณที่ร้อยไหม ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเอง
    • ต้องทำซ้ำ: เนื่องจากผลลัพธ์ไม่ถาวร จึงจำเป็นต้องทำซ้ำเมื่อไหมสลายไป เพื่อคงผลลัพธ์

3. การยกหางตาด้วยเลเซอร์ (Laser Skin Tightening):

การยกหางตาด้วยเลเซอร์เป็นวิธีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนัง โดยใช้พลังงานจากเลเซอร์ส่งผ่านลงสู่ผิวหนังชั้นลึก ทำให้ผิวหนังหดตัวและกระชับขึ้น ช่วยลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยบริเวณหางตา

  • เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้:

    • Fractional Laser: เป็นเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานเป็นจุดเล็ก ๆ จำนวนมาก ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่และผลัดเซลล์ผิวเก่า
    • Ultherapy: เป็นการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความถี่สูง ส่งพลังงานลงสู่ผิวหนังชั้นลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว
    • Thermage: เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ส่งพลังงานความร้อนลงสู่ผิวหนังชั้นลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว
  • ข้อดีของการยกหางตาด้วยเลเซอร์:

    • ไม่ต้องผ่าตัด: เป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีการเปิดแผล
    • ใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก: โดยทั่วไปสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ อาจมีรอยแดงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง
    • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ช่วยให้ผิวหนังค่อย ๆ กระชับขึ้นในระยะยาว
    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาน้อย: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกหรือหนังตาหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อย และต้องการปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม
  • ข้อเสียของการยกหางตาด้วยเลเซอร์:

    • ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่าการผ่าตัดหรือร้อยไหม: เลเซอร์ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและค่อยเป็นค่อยไป อาจไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเท่ากับการผ่าตัดหรือร้อยไหม
    • ต้องทำซ้ำหลายครั้ง: เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ มักจะต้องทำทรีตเมนต์หลายครั้ง โดยเว้นระยะตามคำแนะนำของแพทย์
    • ผลลัพธ์ไม่ถาวร: ผลลัพธ์จะค่อย ๆ จางลงตามธรรมชาติ และจำเป็นต้องทำซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์
    • อาจมีอาการข้างเคียง: เช่น รอยแดง ผิวแห้ง หรือรู้สึกตึงบริเวณที่ทำเลเซอร์

การเลือกวิธีที่ใช่สำหรับคุณ:

การเลือกวิธีการยกหางตาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่:

  • ระดับความหย่อนคล้อยและริ้วรอย: หากมีปัญหามาก การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากมีปัญหาน้อยถึงปานกลาง การร้อยไหมหรือเลเซอร์อาจเพียงพอ
  • ความคาดหวังในผลลัพธ์: หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน การผ่าตัดเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด หากต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและไม่ต้องการพักฟื้นนาน การร้อยไหมหรือเลเซอร์อาจตอบโจทย์มากกว่า
  • งบประมาณ: การผ่าตัดมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด รองลงมาคือการร้อยไหม และเลเซอร์มักมีค่าใช้จ่ายต่อครั้งไม่สูงนัก แต่ต้องทำหลายครั้ง
  • ความกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดและระยะพักฟื้น: หากกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดและต้องการหลีกเลี่ยงระยะพักฟื้น การร้อยไหมหรือเลเซอร์เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด
  • สภาพผิวและสุขภาพโดยรวม: แพทย์จะพิจารณาสภาพผิวและสุขภาพโดยรวมของคุณ เพื่อแนะนำวิธีการที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด

ตารางเปรียบเทียบวิธีการยกหางตา:

คุณสมบัติ การผ่าตัดยกหางตา การร้อยไหมยกหางตา การยกหางตาด้วยเลเซอร์
วิธีการ ผ่าตัด สอดไหม ใช้พลังงานเลเซอร์
ความรุกราน สูง ปานกลาง น้อย
ผลลัพธ์ ชัดเจน ยาวนาน เห็นผลทันที ไม่ถาวร ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ถาวร
ระยะพักฟื้น นาน (1-2 สัปดาห์) น้อย (1-2 วัน) น้อยมาก (ทันที)
รอยแผลเป็น อาจมี เล็กน้อย/ไม่มี ไม่มี
ความเสี่ยง สูงกว่า ปานกลาง น้อย
จำนวนครั้งที่ทำ ครั้งเดียว ทำซ้ำเมื่อไหมสลาย หลายครั้ง
ค่าใช้จ่าย สูง ปานกลาง ปานกลาง/ต่ำต่อครั้ง
เหมาะสำหรับ ปัญหามาก ปานกลาง/น้อย น้อย

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ: การปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่งหรือผิวหนัง เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกวิธีการยกหางตา แพทย์จะสามารถประเมินสภาพผิวและปัญหาของคุณได้อย่างแม่นยำ และให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ
  • ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด: ก่อนตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการนั้น ๆ อย่างละเอียด รวมถึงข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่คาดหวัง
  • เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน: เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ มีแพทย์ผู้ชำนาญการ และมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี

สรุป:

การยกหางตามีหลากหลายวิธีให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดที่ให้ผลลัพธ์ยาวนาน การร้อยไหมที่เห็นผลทันทีและไม่ต้องพักฟื้นนาน หรือการใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนอย่างเป็นธรรมชาติ การเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับระดับปัญหา ความคาดหวัง งบประมาณ และความกังวลส่วนบุคคล การปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและตัดสินใจเลือกแนวทางที่ใช่ เพื่อดวงตาที่ยกกระชับ สดใส และอ่อนเยาว์อย่างที่คุณต้องการ

ช่องทางติดต่อ Double P Clinic
Website:  https://doublepclinic.com/
Facebook:  https://www.facebook.com/doublepclinic/
Line: @doublepclinic
เบอร์โทรศัพท์:
สาขากรุงเทพฯ: 02-060-1167, 091-773-9167, 094-965-6393
สาขาพิษณุโลก: 095-664-4246

#ยกหางตา #ศัลยกรรมยกหางตา #ร้อยไหมยกหางตา #เลเซอร์ยกหางตา #ตาตก #หนังตาหย่อนคล้อย #ริ้วรอยรอบดวงตา #ศัลยกรรมตา #ความงาม #ศัลยกรรม #บิวตี้ทิปส์ #FoxyEyes #TemporalLift #ThreadLift #LaserLift #ผิวรอบดวงตา #ดูแลผิวหน้า

Author Profile

Admin