1. ตัดถุงใต้ตา คืออะไร ?

ตัดถุงใต้ตาคือศัลยกรรมเล็กๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวมคล้ายหมีแพนด้า ทำให้หน้าดูโทรม แก่กว่าวัย

แพทย์จะกรีดใต้ตาหรือในเปลือกตา (แล้วแต่เทคนิค) เพื่อนำไขมันส่วนเกินออก ช่วยให้ใต้ตาดูเรียบเนียน สดใสขึ้น

หลังทำ หน้าจะดูเด็กลง แต่งหน้าง่ายขึ้น และมั่นใจในการถ่ายรูปมากขึ้น
การผ่าตัดใช้เวลาไม่นาน บวมช้ำน้อย พักฟื้นไม่นาน แต่ต้องเลือกสถานพยาบาล และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

2. ศัลยกรรมถุงใต้ตา คืออะไร?

ศัลยกรรมถุงใต้ตา คือการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาที่บวมหรือมีไขมันสะสม
ทำให้ดูอ่อนเพลียและแก่กว่าวัย แพทย์จะทำการผ่าตัดโดยมี 2 วิธีหลัก:

1. ตัดถุงใต้ตาแผลนอก: แพทย์จะกรีดที่ใต้ขอบตาล่าง เพื่อนำไขมันส่วนเกินออกและจัดกล้ามเนื้อให้กระชับ
2. ตัดถุงใต้ตาแผลใน: แพทย์จะกรีดด้านในเปลือกตาล่าง ไม่เห็นแผลภายนอก เหมาะสำหรับผู้ที่มีถุงใต้ตาไม่มาก

3. ตัดถุงใต้ตา มีกี่แบบ กี่วิธี?

ตัดถุงใต้ตา มี 2 แบบหลักๆ 

แผลใน: กรีดในเปลือกตา ไม่มีแผลเป็นภายนอก 
แผลนอก: กรีดใต้ขนตา แผลเล็ก แต่เห็นรอยช้ำชัดกว่า

เลือกแบบที่เหมาะกับปัญหา ปรึกษาคุณหมอได้เลย

4. ตัดถุงใต้ตาแผลนอก คืออะไร?

ตัดถุงใต้ตาแผลนอก คือ การผ่าตัดนำไขมันใต้ตาออก โดยหมอจะกรีดแผลเล็กๆ ใต้ขนตาล่าง 
วิธีนี้ หมอจะตัดไขมัน และหนังตาส่วนเกินออกได้ ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวม และหนังตาหย่อนคล้อยได้ดี
แต่จะมีรอยแผลเป็นเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ จางลง

5. ตัดถุงใต้ตา แผลในคืออะไร?

ตัดถุงใต้ตาแผลใน คือ การผ่าตัดนำไขมันใต้ตาออก โดยหมอจะกรีดแผลเล็กๆ ด้านในเปลือกตาล่าง 

วิธีนี้ไม่มีแผลเป็นภายนอก ฟื้นตัวเร็ว บวมช้ำน้อย แต่งหน้าได้เกือบทันที 

แต่! แก้ไขได้เฉพาะไขมัน ไม่เหมาะกับคนที่มีหนังตาหย่อนคล้อยมาก หรือมีร่องลึกใต้ตา

ถ้าสนใจ ควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อประเมินว่าเหมาะกับเทคนิคนี้ไหมนะคะ 

6. ตัดถุงใต้ตา แผลนอก แผลใน ต่างกันอย่างไง ?

ตัดถุงใต้ตา มี 2 แบบหลักๆ ที่ต่างกันตรงตำแหน่งแผล

• แผลใน: หมอจะกรีดแผลด้านในเปลือกตา ไม่มีรอยแผลเป็นให้เห็นเลย เหมาะกับคนที่มีไขมันใต้ตาไม่มาก ฟื้นตัวเร็ว 

• แผลนอก: หมอจะกรีดแผลใต้ขนตา สามารถตัดไขมันและหนังตาส่วนเกินออกได้ เหมาะกับคนที่มีถุงใต้ตาเยอะ หรือหนังตาหย่อนคล้อย แต่จะมีรอยแผลเป็นเล็กๆ ซึ่งจะค่อยๆ จางลงไปเอง 

เลือกแบบที่เหมาะกับปัญหา ปรึกษาคุณหมอได้เลย

7. ถุงใต้ตาเกิดจากสาเหตุอะไร?

• อายุที่มากขึ้น: พออายุเยอะขึ้น ผิวใต้ตาจะบางลง หย่อนคล้อย ทำให้ไขมันใต้ตาโผล่ออกมาเป็นถุงๆ 
• กรรมพันธุ์: บางคนมีกรรมพันธุ์ที่มีถุงใต้ตาชัดเจนตั้งแต่อายุยังน้อย 
• พฤติกรรม: นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ดื่มน้ำน้อย ทานอาหารเค็มจัด ชอบขยี้ตา 
• ภูมิแพ้: ทำให้เกิดการอักเสบ และบวมน้ำใต้ตา

8. ใต้ตาบวม ผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา ช่วยได้ไหม ?

การผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาช่วยลดปัญหาใต้ตาบวมได้ โดยศัลยแพทย์จะนำไขมันส่วนเกินออกหรือจัดเรียงใหม่ ทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียนและสดใสขึ้น การผ่าตัดนี้ช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์และพักผ่อนเพียงพอ การผ่าตัดถุงใต้ตาสามารถทำได้ทั้งจากด้านในเปลือกตาและจากด้านนอก ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน การผ่าตัดจะมีความปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ควรปรึกษาเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม

9. ตัดถุงใต้ตา เจ็บไหม  ?

ตัดถุงใต้ตา ไม่เจ็บอย่างที่คิด!

• ก่อนทำ: หมอจะทายาชา หรือฉีดยาชา 
• ระหว่างทำ: ไม่รู้สึกเจ็บเลย 
• หลังยาชาหมดฤทธิ์: อาจปวดๆตึงๆ นิดหน่อย
• หมอให้ยาแก้ปวด: ทานยาตามที่หมอสั่งก็หายปวดแล้ว 

โดยรวมแล้ว ความเจ็บน้อยมากกก 

10. ผ่าตัดถุงใต้ตาแบบไร้แผล คืออะไร  ?

ผ่าตัดถุงใต้ตาแบบไร้แผล คือ การผ่าตัดนำไขมันใต้ตาออกทาง “ด้านในเปลือกตา” 

• ข้อดี: ไม่มีแผลเป็นภายนอก ฟื้นตัวเร็ว
• ข้อเสีย: แก้ไขได้เฉพาะไขมัน ไม่สามารถตัดหนังตาส่วนเกินออกได้

เหมาะกับคนที่มีถุงใต้ตาไม่มาก และไม่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย

11. เหตุผลที่ควรผ่าตัดถุงใต้ตามีอะไรบ้าง ?  

ถุงใต้ตาทำให้ดูโทรม เหนื่อยล้า แก่กว่าวัย  การผ่าตัดช่วยได้! 

• ลดถุงใต้ตา: ใต้ตาเรียบเนียน ดูสดใสขึ้น
• หน้าดูอ่อนเยาว์: ไม่โทรม ไม่หมองคล้ำ
• เพิ่มความมั่นใจ: กล้าสบตา มั่นใจในการถ่ายรูป 
• แก้ไขปัญหาสุขภาพ: บางรายช่วยเรื่องการมองเห็น

ตัดสินใจผ่าตัด ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

12. ถุงใต้ตาในวัยหนุ่มสาว ควรแก้ไขอย่างไร ? 

วัยรุ่นก็มีถุงใต้ตาได้!  เกิดจากนอนน้อย แพ้ หรือกรรมพันธุ์

แก้ไขได้หลายแบบ เช่น

• ดูแลตัวเอง: นอนพักผ่อน ประคบเย็น ทาอายครีม
• เลเซอร์: กระตุ้นคอลลาเจน (ต้องทำหลายครั้ง)
• ฟิลเลอร์: เติมเต็มร่องลึก (อยู่ได้ 6-18 เดือน)
• ผ่าตัด: นำไขมันส่วนเกินออก (ผลลัพธ์ถาวร)

ปรึกษาแพทย์ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม

13. ถุงใต้ตาในวัยผู้สูงอายุ ควรแก้ไขอย่างไร ?

ถุงใต้ตาในผู้สูงอายุ แก้ไขได้หลายวิธี

• ดูแลตัวเอง: นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ทาอายครีม
• เลเซอร์: กระตุ้นคอลลาเจน (ต้องทำหลายครั้ง)
• ฟิลเลอร์: เติมเต็มร่องลึก (อยู่ได้ 6-18 เดือน)
• ผ่าตัด: นำไขมันส่วนเกินออก (ผลลัพธ์ชัดเจน อยู่ได้นาน)

ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม และปลอดภัยที่สุด

14. จัดเรียงไขมันใต้ตา คืออะไร ?

จัดเรียงไขมันใต้ตา คือ ศัลยกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวมแบบ “ตาแพนด้า”  โดย “ย้าย” 
ไขมันใต้ตาที่ปูดออกมา ไปเติมเต็มร่องลึกใต้ตา  ทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียน สดใสขึ้น
และดูอ่อนเยาว์ลง

15. การผ่าตัดถุงใต้ตาเหมาะกับใคร ?

ผ่าตัดถุงใต้ตา เหมาะกับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาชัดเจน  เช่น

• ถุงใต้ตาบวม
• ใต้ตาหย่อนคล้อย
• มีร่องใต้ตา

การผ่าตัดจะช่วยนำไขมันส่วนเกินออก ทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียน สดใส และดูอ่อนเยาว์ขึ้น 

16. ตัดถุงใต้ตา เห็นผลจริงไหม ?

ตัดถุงใต้ตา เห็นผลจริง  ช่วยลดถุงใต้ตา ใต้ตาเรียบเนียน ดูสดใสขึ้น หน้าดูเด็กลง มั่นใจขึ้นเวลาถ่ายรูป  แต่ต้องเลือกสถานพยาบาล และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และลดความเสี่ยง

17. ตัดถุงใต้ตา ต้องพักฟื้นนานไหม ?

ตัดถุงใต้ตา พักฟื้นไม่นานเลยค่ะ

• 1-3 วันแรก: บวม ช้ำ ประคบเย็น ทายา
• 3-7 วัน: ตัดไหม (ถ้ามี) แต่งหน้าได้บ้าง
• 1-2 สัปดาห์: แผลเริ่มหาย แต่งหน้าได้ตามปกติ
• 1-3 เดือน: เข้าที่ สวยปิ๊ง! 

ส่วนใหญ่ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว

18. ตัดถุงใต้ตา มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

ตัดถุงใต้ตา ถือเป็นศัลยกรรมเล็ก แต่ก็อาจมีผลข้างเคียง

• ผลข้างเคียงชั่วคราว:
  • บวม ช้ำ ใต้ตา (ไม่ต้องตกใจ หายได้เองใน 1-2 สัปดาห์)
  • ตาแห้ง มองเห็นภาพซ้อน (มักหายได้เอง)
• ผลข้างเคียงระยะยาว:
  • แผลเป็น (ถ้าดูแลไม่ดี หรือแพทย์ไม่มีประสบการณ์)
  • ใต้ตาโหล (ถ้าเอาไขมันออกมากเกินไป)
• ผลข้างเคียงร้ายแรง:
  • ติดเชื้อ เลือดออก (พบน้อย ถ้าเลือกแพทย์ และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน)

หลังผ่าตัด ดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง

19. ตัดถุงใต้ตา มีแผลเป็นไหมตัดถุงใต้ตา มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

ตัดถุงใต้ตา มีแผลเป็นไหม? ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้

• แผลใน: กรีดในเปลือกตา ไม่มีแผลเป็น ภายนอกเลย
• แผลนอก: กรีดใต้ขนตา จะมีแผลเป็นเล็กๆ แต่จางหายไปเองตามกาลเวลา 

เลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหา ปรึกษาคุณหมอได้เลย

20. ตัดถุงใต้ตา อันตรายไหม ? 

ตัดถุงใต้ตา โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย แต่ก็มีความเสี่ยงบ้าง เช่น ติดเชื้อ เลือดออก แผลเป็น หรือตาแห้ง 

เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ 

21. ตัดถุงใต้ตา เหมาะกับใคร ?

ตัดถุงใต้ตา เหมาะกับคนที่มีปัญหาใต้ตาบวม  หรือใต้ตาหย่อนคล้อย ทำให้ดูโทรม แก่กว่าวัย  การผ่าตัดจะช่วยนำไขมันส่วนเกินออก ทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียน สดใสขึ้น และดูอ่อนเยาว์ลง

22. ตัดถุงใต้ตา ไม่เหมาะกับใคร  ?

ตัดถุงใต้ตา เหมาะกับคนใต้ตาบวมจากไขมันส่วนเกิน แต่ไม่เหมาะกับบางคน เช่น

• ใต้ตาคล้ำจากเม็ดสี
• ใต้ตาโหล ไม่มีไขมัน
• ผิวหนังใต้ตาบางมาก
• มีโรคประจำตัวบางชนิด

23. ตัดถุงไขมันใต้ตา กี่วันแต่งหน้าได้  ?

อยากแต่งหน้าหลังตัดถุงใต้ตา  ใจเย็นๆ นิดนึงนะคะ 

• 3-5 วันแรก: ช่วงนี้แผลยังบวม ช้ำ อยู่ ควรงดแต่งหน้า  เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
• 7 วัน: ส่วนใหญ่ตัดไหมแล้ว (ถ้ามี) เริ่มแต่งหน้าได้บ้าง แต่เน้นเบาๆ ห่างๆ แผล 
• 1-2 สัปดาห์: แผลเริ่มหาย แต่งหน้าได้มากขึ้น แต่ยังต้องระวัง อย่าให้เครื่องสำอางเข้าแผล
• 1 เดือนขึ้นไป: แต่งหน้าได้เต็มที่เลย

24. ตัดถุงใต้ตา ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง? (เช่น ริ้วรอย, ใต้ตาคล้ำ) ? 

ตัดถุงใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวม ใต้ตาหย่อนคล้อย ทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียน สดใสขึ้น ดูอ่อนเยาว์ลง 

แต่! การตัดถุงใต้ตา ไม่ได้ช่วยเรื่องรอยคล้ำใต้ตา  เพราะรอยคล้ำเกิดจากเม็ดสีผิว ไม่ใช่ไขมัน

ถ้าอยากแก้รอยคล้ำ ต้องใช้เลเซอร์ หรือทาครีมบำรุง 

25. ตัดถุงไขมันใต้ตา ช่วยให้ดูเด็กลงไหม ? 

ช่วยแน่นอนค่ะ!  การตัดถุงใต้ตา ช่วยลดเลือนรอยคล้ำ ใต้ตาบวม และริ้วรอยใต้ตา ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น ดูอ่อนเยาว์ลง ใบหน้าโดยรวมก็ดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ 

เหมือนได้ย้อนวัยไปเลย  แต่ทั้งนี้ ผลลัพธ์ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัด ฝีมือแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

26. ตัดถุงใต้ตา ทำแล้วเป็นยังไง ? 

ตัดถุงใต้ตาแล้วเป็นยังไง? หลายคนสงสัย  บอกเลยว่าปังมาก! 

• ตาสดใสขึ้น: ใต้ตาเรียบเนียน ไม่อูม ไม่หมองคล้ำ ดูสดใสเหมือนนอนเต็มอิ่ม
• หน้าดูเด็กลง: ไม่มีถุงใต้ตาเหมือนหมีแพนด้า หน้าเด็กขึ้นเป็นกอง
• มั่นใจขึ้น: ไม่ต้องคอยต้ตาหนาๆ อีกต่อไป
• ถ่ายรูปสวย: มั่นใจในทุกช็อต ไม่ต้องกลัวตาโทรม 

27. ผลเสียของการผ่าตัดถุงใต้ตา ? 

ตัดถุงใต้ตา แม้จะเป็นศัลยกรรมเล็กๆ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงบ้าง เช่น

• ช่วงแรก: บวม ช้ำ ตาแห้ง ตึงๆ (ไม่ต้องกังวล อาการเหล่านี้จะหายไปเอง ภายใน 1-2 สัปดาห์)
• นานๆ ไป: แผลเป็น ตาแห้ง (ขึ้นอยู่กับฝีมือหมอ และการดูแลตัวเอง)
• อันตราย: ติดเชื้อ เลือดออก (พบน้อยมาก ถ้าเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน)

28. ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา ?  

หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตัดถุงใต้ตา มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง จะได้ไม่พลาด! 

• เข้าใจผิด: ตัดแล้วใต้ตาจะโหล 
  • ความจริง: หมอจะประเมิน และนำไขมันออกแค่พอดี ไม่ทำให้ใต้ตาโหลแน่นอน 
• เข้าใจผิด: ตัดแล้วรอยคล้ำหาย 
  • ความจริง: ตัดถุงใต้ตาช่วยแค่เรื่อง “ใต้ตาบวม”🐼 รอยคล้ำต้องรักษาด้วยเลเซอร์ หรือครีม 
• เข้าใจผิด: ทำแล้วตาหวานขึ้น 
  • ความจริง: ตัดถุงใต้ตา ไม่ได้เปลี่ยนรูปตา แค่ทำให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น 
• เข้าใจผิด: ใครๆ ก็ทำได้ 
  • ความจริง: ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินก่อน บางคนอาจไม่เหมาะ เช่น ใต้ตาไม่มีไขมัน หรือผิวบางมาก
• เข้าใจผิด: อันตราย เสี่ยงสูง 
  • ความจริง: ถ้าเลือกสถานพยาบาล และแพทย์ที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง 

29. ตัดถุงไขมันใต้ตาอยู่ได้นานกี่ปี ?  

ตัดถุงใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน?  หลายคนสงสัย บอกเลยว่า… อยู่ได้นานเป็น 10 ปี หรือ อาจจะถาวรเลยล่ะ! 

เพราะการตัดถุงใต้ตา เป็นการนำไขมันส่วนเกินออกไป ซึ่งไขมันพวกนี้จะไม่กลับมาอีก ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 

แต่! ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ด้วยนะ

• อายุ: ยิ่งอายุมาก ผิวก็ยิ่งหย่อนคล้อยง่าย

30. ตัดถุงใต้ตาวางยางสลบไหม ?  

ตัดถุงใต้ตาไม่ต้องวางยาสลบค่ะ  ส่วนใหญ่ใช้แค่ยาชาเฉพาะที่ โดยหมอจะทายาชา หรือฉีดยาชาบริเวณใต้ตา ทำให้ระหว่างผ่าตัดไม่รู้สึกเจ็บเลย 

หลังผ่าตัด ก็สามารถกลับบ้านได้เลย

31. ผ่าตัดใต้ตาใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน ?  

ผ่าตัดใต้ตา ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานอย่างที่คิด

โดยทั่วไป จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้วค่ะ 

• 3-5 วันแรก: อาจมีอาการบวมช้ำ ควรประคบเย็น ทายา และงดแต่งหน้า
• 7 วัน: ส่วนใหญ่จะตัดไหม (ถ้ามี) แต่งหน้าได้บ้าง
• 1-2 สัปดาห์: แผลเริ่มหาย แต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรระวัง อย่าให้เครื่องสำอางเข้าแผล
• 1-3 เดือน: แผลหายสนิท ใต้ตาเข้าที่ สวยปิ๊ง! 

แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัด การดูแลตัวเอง และสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วยนะคะ 

ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น แผลบวม แดง มีหนอง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที 

32. ตัดถุงใต้ตานอนตะแคงได้ไหม ?  

หลังตัดถุงใต้ตา ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรงดนอนตะแคงก่อน 

เพราะอาจทำให้เกิดแรงกดทับ ทำให้แผลหายช้า บวมนาน หรือชั้นตาไม่เท่ากันได้ 

แนะนำให้ นอนหงาย และหนุนหมอนสูงๆ จะช่วยลดบวม และทำให้แผลหายเร็วขึ้น 

หลังจาก 2 สัปดาห์ไปแล้ว ถ้าแผลหายดี ก็นอนตะแคงได้ตามปกติ

33. ผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาจะกลับมาเป็นอีกไหม ?  

ตัดถุงใต้ตาแล้ว สบายใจได้เลย ส่วนใหญ่แล้วไขมันใต้ตาจะไม่กลับมาอีก ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 

แต่… ผิวใต้ตาอาจหย่อนคล้อยลงตามอายุ ทำให้ดูเหมือนมีถุงใต้ตาได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นหลัง 10 ปีขึ้นไป

Tips ป้องกันถุงใต้ตากลับมา:

• ทาครีมบำรุงใต้ตา
• นวดหน้า กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
• ทาครีมกันแดด
• พักผ่อนให้เพียงพอ
• ดื่มน้ำเยอะๆ

ถ้าดูแลตัวเองดีๆ ก็ช่วยชะลอริ้วรอย และความหย่อนคล้อยได้ค่ะ 

34. ต่อมไขมันใต้ตาเกิดจากอะไร ? ?  

จริงๆ แล้วไม่มี “ต่อมไขมันใต้ตา”  ที่เราเห็นเป็นถุงใต้ตา ส่วนใหญ่เกิดจากไขมันใต้ตา ซึ่งมีอยู่แล้วในเบ้าตา แต่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและกล้ามเนื้อใต้ตาจะหย่อนคล้อยลง ทำให้ไขมันดันตัวออกมา เป็นถุงใต้ตา 

สาเหตุอื่นๆ เช่น นอนน้อย ภูมิแพ้ หรือกรรมพันธุ์ ก็ทำให้เกิดถุงใต้ตาได้เช่นกัน

35. ถุงไขมันใต้ตาเกิดจากสาเหตุอะไร ?  

ถุงใต้ตาทำให้หน้าดูโทรม ดูเหนื่อย เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ

อายุที่มากขึ้น: ผิวใต้ตาบางลง  ไขมันใต้ตาเลยปูดออกมา

นอนน้อย พักผ่อนไม่พอ:  ใต้ตาบวม  คล้ำ  เหมือนหมีแพนด้า

ภูมิแพ้:  ตาบวม  น้ำตาไหล  ก็ทำให้เกิดถุงใต้ตาได้

ทานเค็ม:  ร่างกายกักเก็บน้ำ  ใต้ตาเลยบวมขึ้น

ร้องไห้หนักๆ:  ตาบวม  เป็นถุงใต้ตาชั่วคราว

กรรมพันธุ์:  บางคนมีถุงใต้ตาตั้งแต่เด็กๆ เลย

ขยี้ตาแรงๆ:  ระคายเคืองผิว  ทำให้เกิดถุงใต้ตาได้เหมือนกัน

ลองสังเกตตัวเองดูนะคะว่ามีพฤติกรรมแบบไหนบ้าง  แล้วปรับเปลี่ยนดู  อาจช่วยลดถุงใต้ตาได้ 

36. ถุงไขมันใต้ตาหายเองได้ไหม  ?  

ถุงใต้ตาหายเองได้ไหม?  ขึ้นอยู่กับสาเหตุ

• ถุงใต้ตาแบบชั่วคราว: เกิดจากนอนน้อย ร้องไห้ แพ้ พวกนี้หายเองได้  แค่พักผ่อนให้เพียงพอ ประคบเย็น ดื่มน้ำเยอะๆ ก็ช่วยได้
• ถุงใต้ตาแบบถาวร: เกิดจากไขมันใต้ตา หรือผิวหย่อนคล้อย แบบนี้ไม่หายเอง  ต้องพึ่งวิธีทางการแพทย์ เช่น เลเซอร์ ฟิลเลอร์ หรือผ่าตัด

 

37. ข้อดี ของการตัดถุงใต้ตา ?  

ตัดถุงใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวมคล้ายหมีแพนด้า ทำให้หน้าดูโทรม แก่กว่าวัย  โดยหมอจะกรีดใต้ตาหรือในเปลือกตา เพื่อนำไขมันส่วนเกินออก ช่วยให้ใต้ตาดูเรียบเนียน สดใสขึ้น 

หลังทำ หน้าจะดูเด็กลง แต่งหน้าง่ายขึ้น และมั่นใจในการถ่ายรูปมากขึ้นด้วยนะ

แต่! ต้องเลือกสถานพยาบาล และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

 

38. ดอลลี่อายกับถุงใต้ตาต่างกันอย่างไง ?  

ดอลลี่อายกับถุงใต้ตา คนละอย่างกันเลยนะ! 

• ดอลลี่อาย: มัดกล้ามเนื้อเล็กๆ ใต้ตา ทำให้ตาดูหวาน ละมุนขึ้น มองเห็นชัดตอนยิ้ม ส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่ติดตัวมาแต่กำเนิด 

• ถุงใต้ตา: ไขมันใต้ตาที่ปูดออกมา ทำให้ใต้ตาบวม โทรม ดูมีอายุ  เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น อายุมากขึ้น นอนน้อย หรือกรรมพันธุ์ 

สรุปง่ายๆ ดอลลี่อายคือ “กล้ามเนื้อ” ส่วนถุงใต้ตาคือ “ไขมัน” จำง่ายๆ แบบนี้เลย!