ยกหางตามีแบบไหนบ้าง? เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียแต่ละวิธี
ยกหางตามีแบบไหนบ้าง? เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียแต่ละวิธี
การยกหางตาเป็นศัลยกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาหางตาตก หนังตาหย่อนคล้อย และริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ดวงตาดูยกกระชับ สดใส และอ่อนเยาว์ขึ้น ปัจจุบันมีเทคนิคการยกหางตาหลากหลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการยกหางตาแต่ละประเภท เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่สนใจทำศัลยกรรมยกหางตา
ประเภทของการยกหางตา
-
การยกหางตาแบบผ่าตัด (Surgical Brow Lift/Temporal Lift)
- เป็นการผ่าตัดยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตาและตัดหนังตาส่วนเกินออก
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตก หนังตาหย่อนคล้อย และริ้วรอยรอบดวงตาชัดเจน
- ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า
- ข้อดี:
- ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน
- สามารถแก้ไขปัญหาหางตาตก หนังตาหย่อนคล้อย และริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สามารถปรับรูปทรงดวงตาให้ดูเฉี่ยวคมได้
- ข้อเสีย:
- ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า (ประมาณ 1-2 สัปดาห์)
- อาจมีรอยแผลเป็น
- มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
- มีผลข้างเคียงเช่น อาการบวมช้ำ การติดเชื้อ หรือผลลัพธ์ที่ไม่เป็นที่น่าพอใจ
- เทคนิคการผ่าตัด:
- Temporal Lift: เป็นการผ่าตัดยกกระชับผิวหนังบริเวณขมับ โดยเปิดแผลเล็กๆ บริเวณไรผม
- Direct Brow Lift: เป็นการผ่าตัดยกหางตาโดยตรงเหนือคิ้ว แล้วตัดหนังตาส่วนเกินออก มักจะใช้ในผู้สูงอายุ เนื่องจากหนังตามีการหย่อนคล้อยมาก
- Sub-brow Lift: เป็นการผ่าตัดยกหางตาโดยการเปิดแผลที่ใต้คิ้ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก ไขมันชั้นตาเยอะ และต้องการปรับระดับความสูงของคิ้ว
- Coronal Brow Lift: เป็นการผ่าตัดยกกระชับผิวหนังบริเวณหน้าผาก โดยเปิดแผลยาวบริเวณไรผม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากย่นร่วมด้วย
- Endoscopic Brow Lift: เป็นการผ่าตัดยกหางตาโดยใช้กล้องส่องขนาดเล็ก สอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกกระชับเนื้อเยื่อบริเวณหางตา
-
การยกหางตาแบบร้อยไหม (Thread Lift)
- เป็นการร้อยไหมละลายเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตา
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวร (ประมาณ 1-2 ปี)
- ข้อดี:
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น
- ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
- ข้อเสีย:
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร
- ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยและริ้วรอยรอบดวงตาได้มากเท่ากับการผ่าตัด
- มีผลข้างเคียงเช่น อาการบวมช้ำ หรือไหมเคลื่อน
- ประเภทของไหม:
- ไหม PDO (Polydioxanone): เป็นไหมละลายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีความปลอดภัยสูง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี
- ไหม PLLA (Poly L-lactic Acid): เป็นไหมละลายที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่าไหม PDO และอยู่ได้นานกว่า
- ไหม PCL (Polycaprolactone): เป็นไหมละลายที่อยู่ได้นานที่สุด (ประมาณ 2 ปี) แต่มีราคาแพงกว่า
-
การยกหางตาด้วยเลเซอร์ (Laser Brow Lift)
- เป็นการใช้เลเซอร์ยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตา
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อย และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวร (ประมาณ 1-2 ปี)
- ข้อดี:
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น
- ใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
- ข้อเสีย:
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร
- ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยและริ้วรอยรอบดวงตาได้มากเท่ากับการผ่าตัด
- ต้องทำซ้ำหลายครั้ง
- มีค่าใช้จ่ายสูง
- ประเภทของเลเซอร์:
- เลเซอร์ Fractional CO2: เป็นเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวหนัง
- เลเซอร์ Ulthera: เป็นเลเซอร์ที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ในการยกกระชับผิวหนังชั้นลึก
-
การยกหางตาด้วยฟิลเลอร์ (Filler Brow Lift)
- เป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณหางตา เพื่อยกกระชับผิวหนัง
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อย และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวร (ประมาณ 1-2 ปี)
- ข้อดี:
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น
- ใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก
- เห็นผลลัพธ์ได้ทันที
- ข้อเสีย:
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร
- ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยและริ้วรอยรอบดวงตาได้มากเท่ากับการผ่าตัด
- ต้องทำซ้ำหลายครั้ง
- มีค่าใช้จ่ายสูง
- มีผลข้างเคียงเช่น อาการบวมช้ำ หรือฟิลเลอร์เคลื่อน
- ประเภทของฟิลเลอร์:
- กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid): เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีความปลอดภัยสูง และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
การเลือกเทคนิคการยกหางตา
การเลือกเทคนิคการยกหางตาที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
- ปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการ
- สภาพผิวหนังและโครงสร้างใบหน้า
- งบประมาณ
- ความคาดหวังเกี่ยวกับผลลัพธ์
สรุป
การยกหางตามีหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล
ช่องทางติดต่อ Double P Clinic
Website: https://doublepclinic.com/
Facebook: https://www.facebook.com/doublepclinic/
Line: @doublepclinic
เบอร์โทรศัพท์:
สาขากรุงเทพฯ: 02-060-1167, 091-773-9167, 094-965-6393
สาขาพิษณุโลก: 095-664-4246
#ยกหางตา #ศัลยกรรมยกหางตา #ตาตก #หนังตาหย่อนคล้อย #ริ้วรอยรอบดวงตา #ศัลยกรรมตา #ความงาม #ศัลยกรรม
Author Profile
Latest entries
ทำตาสองชั้นต้องอ่านApril 24, 2025ทำไมต้อง เย็บปีกจมูก ?
ทำตาสองชั้นต้องอ่านApril 23, 2025เย็บปีกจมูก แก้ปัญหาอะไร?
ทำตาสองชั้นต้องอ่านApril 22, 2025เย็บปีกจมูก คืออะไร แก้ปีกจมูกใหญ่ได้ไหม?
ทำตาสองชั้นต้องอ่านApril 21, 2025ศัลยกรรมเย็บปีกจมูก คืออะไร ?