ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม vs ฉีดสลายไขมัน อันไหนดีกว่า?

ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม vs ฉีดสลายไขมัน อันไหนดีกว่า?
ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม vs ฉีดสลายไขมัน อันไหนดีกว่า?
ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม vs ฉีดสลายไขมัน อันไหนดีกว่า?

ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างการตัดไขมันกระพุ้งแก้มและการฉีดสลายไขมัน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง:

ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม (Buccal Fat Removal)

  • หลักการ: เป็นการผ่าตัดเล็กเพื่อนำไขมันส่วนเกินบริเวณกระพุ้งแก้มออก ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง
  • เหมาะสำหรับ:
    • ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณกระพุ้งแก้มค่อนข้างมาก
    • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ถาวร
    • ผู้ที่มีโครงสร้างใบหน้าที่ต้องการปรับรูปทรง
  • ข้อดี:
    • ผลลัพธ์ถาวร ไขมันที่นำออกไปแล้วจะไม่กลับมาสะสมอีก
    • เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ใบหน้าดูเรียวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
    • ช่วยปรับรูปทรงใบหน้าให้สมส่วนมากยิ่งขึ้น
  • ข้อเสีย:
    • เป็นการผ่าตัด ต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
    • อาจมีอาการบวมช้ำหลังผ่าตัด
    • อาจมีรอยแผลเป็นเล็กน้อยภายในช่องปาก
    • อาจเกิดผลข้างเคียงเช่น ใบหน้าดูตอบเกินไป ในผู้ที่มีเนื้อแก้มอยู่น้อย
  • ขั้นตอน:
    • ศัลยแพทย์จะทำความสะอาดช่องปากและให้ยาชาเฉพาะที่
    • จากนั้นจะเปิดแผลเล็กๆ บริเวณกระพุ้งแก้มด้านในช่องปาก
    • นำไขมันส่วนเกินออก และเย็บปิดแผล
    • ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30-60 นาที

  • การดูแลหลังผ่าตัด:
    • ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
    • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
    • บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อ
    • รับประทานอาหารอ่อนๆ ในช่วง 2-3 วันแรก          หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
      ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม vs ฉีดสลายไขมัน อันไหนดีกว่า?

ฉีดสลายไขมัน (Meso Fat)

  • หลักการ: เป็นการฉีดสารสลายไขมันเข้าไปยังบริเวณกระพุ้งแก้ม เพื่อให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย
  • เหมาะสำหรับ:
    • ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณกระพุ้งแก้มไม่มากนัก
    • ผู้ที่กลัวการผ่าตัด
    • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป
  • ข้อดี:
    • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
    • เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัด
    • ใช้เวลาทำไม่นาน
    • ราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่า
  • ข้อเสีย:
    • ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง
    • อาจต้องใช้เวลา 2-3 ครั้งขึ้นไปถึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์
    • ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่าการผ่าตัด
    • อาจเกิดผลข้างเคียงเช่น อาการบวมช้ำ รอยแดง หรือแพ้สารที่ฉีด
  • ขั้นตอน:
    • แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีด
    • จากนั้นจะฉีดสารสลายไขมันเข้าไปยังบริเวณกระพุ้งแก้ม
    • ใช้เวลาทำประมาณ 15-30 นาที
  • การดูแลหลังฉีด:
    • ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
    • หลีกเลี่ยงการนวดหรือคลึงบริเวณที่ฉีด
    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น ซาวน่า หรือแสงแดดจัด

สรุป:

  • หากคุณมีไขมันสะสมบริเวณกระพุ้งแก้มค่อนข้างมาก และต้องการผลลัพธ์ที่ถาวร การตัดไขมันกระพุ้งแก้มอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
  • หากคุณมีไขมันสะสมบริเวณกระพุ้งแก้มไม่มากนัก กลัวการผ่าตัด และต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป การฉีดสลายไขมันอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อประเมินสภาพใบหน้าและรับคำแนะนำที่เหมาะสม
  • เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ที่มีประสบการณ์
  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียงของแต่ละวิธีอย่างละเอียด
  • พิจารณาถึงงบประมาณและระยะเวลาพักฟื้น

ช่องทางติดต่อ Double P Clinic
Website:  https://doublepclinic.com/
Facebook:  https://www.facebook.com/doublepclinic/
Line: @doublepclinic
เบอร์โทรศัพท์:
สาขากรุงเทพฯ: 02-060-1167, 091-773-9167, 094-965-6393
สาขาพิษณุโลก: 095-664-4246

 

#ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม #ฉีดสลายไขมัน #ลดแก้ม #หน้าเรียว #ศัลยกรรม #ความงาม #คลินิกเสริมความงาม #mesofat #buccalfatremoval #cheekreduction #faceslimming #cosmeticsurgery #beautyclinic

Author Profile

Admin